TTA ซื้อคืนและยกเลิกหุ้นกู้แปลงสภาพ จำนวน 10.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา

กลับหน้าข่าว 21 กรกฎาคม 2553

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ ("TTA") ประกาศยืนยันการซื้อคืนพร้อมทั้งยกเลิกหุ้นกู้แปลงสภาพ (Convertible Bonds) บางส่วน จำนวน 10,500,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา จากผู้ลงทุนในต่างประเทศ เพื่อบริหารจัดการต้นทุนทางธุรกิจและช่วยลดภาระหนี้ในระยะยาว

ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ล่าสุดบริษัทฯได้ดำเนินการซื้อคืนพร้อมทั้งยกเลิกหุ้นกู้แปลงสภาพคิดเป็นจำนวน 10,500,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ซึ่งเมื่อรวมการซื้อคืนและยกเลิกหุ้นกู้แปลงสภาพที่เคยดำเนินการมาก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งหมดรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 66,900,000 ดอลลาร์ มีผลทำให้มูลค่าหุ้นกู้แปลงสภาพคงค้างภายหลังการซื้อคืนและยกเลิกหุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าวเหลือเพียง 102,900,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้เรามีกำไรจากขายหุ้นกู้แปลงสภาพครั้งนี้ประมาณ 11 ล้านบาท"

"แม้ว่าเราจะมีการขยายการลงทุนไปยังโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกัน เราก็มองหาวิธีการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของกลุ่มด้วยการบริหารหนี้สินที่มีอยู่ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน ซึ่งการซื้อคืนและยกเลิกหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัทฯ ในครั้งนี้จะช่วยลดภาระหนี้ระยะยาวบางส่วนของบริษัทฯ ได้" ม.ล.จันทรจุฑา กล่าวสรุป

ทั้งนี้ บริษัทฯได้เคยออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพชุดนี้ให้แก่ผู้ลงทุนในต่างประเทศ จำนวน 169,800,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2550

ข้อมูลเกี่ยวกับ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์

บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ เป็นบริษัทเพื่อการลงทุนในเชิงกลยุทธ์ ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทฯ เน้นกลยุทธ์การลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงในกลุ่มธุรกิจการขนส่ง กลุ่มธุรกิจพลังงาน และกลุ่มธุรกิจโครงสร้างขั้นพื้นฐาน ทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ เป็นเจ้าของธุรกิจเรือสินค้าแห้งเทกอง ซึ่งให้บริการเช่าเหมาลำเป็นระยะเวลาตามความต้องการของลูกค้า และธุรกิจบริการอื่นๆ ที่สนับสนุนการเดินเรือ ต่อมา บริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนออกไปในธุรกิจอื่นๆ ที่สามารถให้การสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจเดิมที่มีอยู่ให้มากขึ้น เช่น ธุรกิจการให้บริการนอกชายฝั่งเกี่ยวกับงานบริการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติและงานวิศวกรรมโยธาใต้น้ำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) ธุรกิจปุ๋ยและธุรกิจคลังสินค้าผ่านบริษัท บาคองโค ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับถ่านหินผ่านบริษัท เมอร์ตันกรุ๊ป และบมจ. ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส และธุรกิจเรือบรรทุกน้ำมันผ่านบริษัท ปิโตรลิฟต์ จำกัด