เมอร์เมดโชว์ผลงานต่อเนื่อง คว้าสัญญาดำน้ำในอินโดนีเซียอีก 55 ล้านเหรียญสหรัฐ

กลับหน้าข่าว 18 กันยายน 2556

18 กันยายน 2556 -- บริษัท โทรีเซน ไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เผยว่าบริษัท พีที ซีสเคป เซอร์เวย์ อินโดนีเซีย (หรือ ซีสเคป) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือเมอร์เมด ได้ทำการเซ็นสัญญาสำหรับการให้บริการ สำรวจ ซ่อมแซม และบำรุงรักษาแท่นขุดเจาะ (Inspection, Repair and Maintenance - IRM) เป็นระยะเวลา 2 ปี พร้อมออพชั่นในการต่อสัญญาอีก 1 ปี กับบริษัทขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่แห่งหนึ่งในอินโดนีเซีย โดยสัญญาดังกล่าวมีมูลค่าเบื้องต้นโดยประมาณ 55 ล้านเหรียญสหรัฐ

สัญญา IRM ฉบับนี้ ถือเป็นการเซ็นสัญญาการให้บริการดำน้ำแบบครบวงจรที่มีมูลค่าสูงสุดของซีสเคปเคยได้งานมา โดยภายใต้ขอบเขตของสัญญาฯ   ซีสเคปจะเป็นผู้ให้บริการทีมนักประดาน้ำมืออาชีพเพื่อการดำสำรวจ ซ่อมแซมและบำรุงรักษาแท่นขุดเจาะอย่างครบวงจร โดยจะนำเรือเอ็มวี เอ็นเดฟเวอร์ (M.V. Endeavor) ซึ่งเป็นเรือสนับสนุนการปฏิบัติการน้ำลึก ที่ได้เช่าช่วงแบบระยะยาวมาจากเมอร์เมด มาให้บริการตลอดอายุสัญญาด้วย

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ รองประธานกรรมการบริหารของ TTA และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเมอร์เมด กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า “สัญญาฉบับนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของซีสเคป และยังเป็นข้อพิสูจน์ถึงชื่อเสียงของซีเสคปที่พัฒนาและได้รับการยอมรับมากขึ้นในแถบน่านน้ำอินโดนีเซีย”

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมอร์เมดประสบความสำเร็จในการระดมเงินทุนจำนวนทั้งสิ้น 159,513,860.52 เหรียญสิงคโปร์ จากการขายหุ้นเพิ่มทุน เพื่อนำเงินไปลงทุนสร้างเรือขุดเจาะใหม่จำนวน 2 ลำ โดยเมอร์เมดสามารถขายหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น และหุ้นเพิ่มทุนในส่วนที่เหลือจากการจัดสรรตามสัดส่วนการถือหุ้นเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 569,692,359 หุ้น หรือคิดเป็น 90.7% ของจำนวนหุ้นเพิ่มทุนที่ออกเสนอขายทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการจองซื้อตามสัดส่วนโดย TTA รวมทั้งสิ้น 358,731,472 หุ้น ทั้งนี้ คาดว่าหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวจะสามารถเข้าซื้อขายในกระดานหลักทรัพย์ของตลาดสิงคโปร์ช่วงประมาณวันที่ 20 กันยายน ศกนี้

“การขยายและยกระดับศักยภาพกองเรือของเมอร์เมดจะเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นตัวและการเติบโตของ TTA ในปี 2557 เนื่องจากการสำรวจและผลิตในธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติกำลังบูมทั้งในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลาง” นายเฉลิมชัยกล่าวสรุป